ติดตั้งโซลาร์เซลล์ต้องขออนุญาตหน่วยงานไหน?

13
Read time: 7 minutes

ติดตั้งโซลาร์เซลล์ต้องขออนุญาตหน่วยงานไหน ?

ขออนุญาตติดตั้งโซลาร์เซลล์ ในยุคที่ค่าไฟพุ่งสูงขึ้นทุกปี หลายคนเริ่มหันมามองหาแหล่งพลังงานทางเลือก และหนึ่งในทางออกที่ได้รับความนิยมสูงสุดก็คือ “ การติดตั้งโซลาร์เซลล์ ” หรือระบบผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ ซึ่งสามารถช่วยลดค่าไฟฟ้าในระยะยาว และส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมในเวลาเดียวกัน อย่างไรก็ตาม การติดตั้งโซลาร์เซลล์ ไม่ใช่เรื่องที่ควรตัดสินใจอย่างเร่งรีบ เพราะแม้จะมีข้อดีมากมาย แต่ก็มีรายละเอียดปลีกย่อยหลายอย่างที่ควรพิจารณาให้รอบด้าน

บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจทุกสิ่งที่ควรรู้ใน การติดตั้งโซลาร์เซลล์ ทั้งในแง่เทคนิค การคำนวณความคุ้มค่า ไปจนถึงการวางแผนในระยะยาว เพื่อให้คุณมั่นใจว่า เมื่อคุณลงทุนทำ การติดตั้งโซลาร์เซลล์ แล้ว จะได้ผลตอบแทนที่ดีที่สุด

เข้าใจพื้นฐานของการ ขออนุญาตติดตั้งโซลาร์เซลล์

ก่อนจะตัดสินใจติดตั้ง สิ่งสำคัญคือการเข้าใจว่า การติดตั้งโซลาร์เซลล์ ทำงานอย่างไร โดยพื้นฐานแล้ว การติดตั้งโซลาร์เซลล์ ทำหน้าที่เปลี่ยนพลังงานแสงจากดวงอาทิตย์ให้กลายเป็นกระแสไฟฟ้า ซึ่งสามารถนำไปใช้งานกับอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านหรือสำนักงานได้ทันที โดยระบบโซลาร์ที่ติดตั้งทั่วไปจะประกอบด้วย 3 ส่วนหลักคือ

  1. แผงโซลาร์เซลล์ (Solar Panels) – ทำหน้าที่รับแสงอาทิตย์และเปลี่ยนเป็นไฟฟ้ากระแสตรง (DC)
  2. อินเวอร์เตอร์ (Inverter) – แปลงไฟฟ้ากระแสตรงเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) เพื่อใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้า
  3. ระบบควบคุมและสายไฟ – รวมถึงอุปกรณ์ความปลอดภัย เช่น ตู้เบรกเกอร์และสายไฟที่เหมาะสม

หลักการทำงานของโซลาร์เซลล์

การติดตั้งโซลาร์เซลล์ ประกอบด้วยเซลล์แสงอาทิตย์หลายร้อยเซลล์ ที่ทำจากซิลิโคน เมื่อได้รับแสงแดดจะเกิดการเคลื่อนตัวของอิเล็กตรอน และสร้างกระแสไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ตัวอินเวอร์เตอร์จะทำหน้าที่แปลงเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) และส่งเข้าระบบไฟฟ้าภายในบ้านหรือขายคืน การติดตั้งจึงต้องคำนึงถึงเรื่องมุมของแผง ทิศทางแสง ระสิทธิภาพการแปลง และความทนทานของอุปกรณ์

ระบบทั้งหมดนี้สามารถออกแบบให้เหมาะกับบ้านแต่ละหลัง ซึ่งอาจมีความต้องการไฟฟ้าและข้อจำกัดของพื้นที่แตกต่างกันออกไป

ประเมินความคุ้มค่าก่อนตัดสินใจ

การติดตั้งโซลาร์เซลล์ คือการลงทุนระยะยาว ดังนั้น ก่อนตัดสินใจควรประเมินให้ชัดเจนว่าคุณจะได้ผลตอบแทนกลับมามากน้อยเพียงใด โดยมีปัจจัยหลักที่ควรพิจารณาดังนี้:

ปริมาณการใช้ไฟฟ้า

บ้านที่มีค่าไฟฟ้าต่อเดือนมากกว่า 1,500–2,000 บาท จะเริ่มเห็นความคุ้มค่าอย่างชัดเจน เนื่องจากสามารถลดภาระค่าไฟได้ถึง 30–70% หรือในบางกรณีอาจลดได้เกือบ 100% หากวางแผนติดตั้งอย่างมีประสิทธิภาพ

ขนาดพื้นที่ติดตั้ง

พื้นที่หลังคาควรหันไปทางทิศใต้หรือทิศตะวันตกเฉียงใต้ ไม่มีเงาบังตลอดวัน และมีความแข็งแรงพอรับน้ำหนักของแผง ระบบขนาด 3–5 กิโลวัตต์ซึ่งเหมาะกับบ้านทั่วไป ต้องใช้พื้นที่ประมาณ 20–40 ตารางเมตร

งบประมาณเริ่มต้น

ราคาของระบบ การติดตั้งโซลาร์เซลล์ ขึ้นอยู่กับขนาดที่ติดตั้ง โดยระบบ 3 kW มีค่าใช้จ่ายประมาณ 90,000–120,000 บาท ส่วนระบบ 5 kW อาจอยู่ที่ 150,000–200,000 บาท การเลือกอุปกรณ์คุณภาพดีของ การติดตั้งโซลาร์เซลล์ จะช่วยให้ใช้งานได้นานและลดค่าบำรุงรักษาในระยะยาว

ระยะเวลาคืนทุน

โดยทั่วไป ระบบที่วางแผนมาอย่างดีจะคืนทุนภายใน 5–7 ปี และสามารถใช้งานได้นานถึง 20–25 ปี หมายความว่าหลังจากคืนทุนแล้ว คุณจะได้ใช้ไฟฟ้า “ฟรี” ต่อไปอีกกว่าสิบปีเลยทีเดียว

เลือกระบบให้เหมาะกับการใช้งาน

การติดตั้งโซลาร์เซลล์มีหลายประเภท ซึ่งเหมาะกับวัตถุประสงค์และสถานที่แตกต่างกัน ดังนี้:

On-Grid: ระบบเชื่อมกับการไฟฟ้า เหมาะกับบ้านในเมืองที่มีไฟหลวง ใช้ไฟจากแสงแดดก่อน ส่วนเกินสามารถขายคืนได้

Off-Grid: ระบบอิสระ ใช้แบตเตอรี่สำรอง เหมาะกับพื้นที่ห่างไกลไม่มีไฟฟ้า

Hybrid: ผสมระหว่าง On-grid และ Off-grid ใช้งานยืดหยุ่น แต่มีต้นทุนสูงกว่า

การเลือกระบบที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณไม่จ่ายเงินเกินจำเป็น และได้ผลลัพธ์ที่ตรงกับพฤติกรรมการใช้ไฟของคุณมากที่สุด

วางแผน การติดตั้งโซลาร์เซลล์ ระยะยาวและเลือกผู้ติดตั้งที่เชื่อถือได้

นอกจากเรื่องเทคนิคแล้ว อีกสิ่งสำคัญที่หลายคนมองข้ามคือการวางแผนระยะยาว คุณควรถามตัวเองว่า จะอยู่อาศัยในบ้านหลังนั้นอีกนานแค่ไหน, มีแผนต่อเติมในอนาคตหรือไม่, หรือมีโครงการเปลี่ยนระบบไฟฟ้าภายในบ้านหรือเปล่า เพราะสิ่งเหล่านี้จะมีผลต่อความคุ้มค่าของระบบ

ที่สำคัญ การเลือกผู้ให้บริการติดตั้งโซลาร์ต้องดูที่ความน่าเชื่อถือ ประสบการณ์ ทีมวิศวกร และการรับประกันหลังการขายจาก การติดตั้งโซลาร์เซลล์ เพราะหากระบบมีปัญหาเล็กน้อย เช่น อินเวอร์เตอร์ชำรุด หรือแผงไม่ผลิตไฟตามที่คาดไว้ คุณจะสามารถเรียกใช้บริการแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว

เหตุผลที่ควรทำความเข้าใจในการ ขออนุญาตติดตั้งโซลาร์เซลล์ ให้ครบก่อนเริ่มติดตั้ง

ลดความเสี่ยงทั้งเทคนิคและการเงิน
การติดตั้งโซลาร์เซลล์ เป็นการลงทุนระยะยาว หากไม่รู้ว่าบ้านคุณใช้ไฟเท่าไร หรือหลังคามีเงาบังบางช่วง การติดตั้งอาจไม่ได้ประสิทธิภาพเต็มที่ และคืนทุนช้ากว่าที่คาด

ซื้ออุปกรณ์ให้ตรงกับความต้องการจริง
ระบบต่างกัน เช่น On‑grid ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ แต่ Off‑grid ต้องมีแบตเตอรี่และอินเวอร์เตอร์ประสิทธิภาพสูง การเลือกผิดอาจทำให้งบเกิน

ประหยัดเวลาในการรับรองและขออนุญาต
ระบบที่เชื่อมต่อกับการไฟฟ้าต้องเปลี่ยนมิเตอร์ ตรวจสอบมาตรฐานการปล่อยกระแสกลับ การมีข้อมูลพร้อมทำให้ขั้นตอนรวดเร็วยิ่งขึ้น

วางแผนชีวิตล่วงหน้า
หากมีแผนขยายบ้าน ปลูกต้นไม้สูง หรือขายบ้านหลังจากคืนทุนเพียงไม่กี่ปี การติดตั้งแบบยืดหยุ่นหรือลงทุนเท่าไหร่ ให้ได้ผลตอบแทนคุ้มค่าในช่วงเวลาที่อยู่จริง จึงเป็นเรื่องที่ต้องคิดล่วงหน้า

ตรวจสอบพื้นที่และ ขออนุญาตติดตั้งโซลาร์เซลล์

ตรวจโครงสร้างหลังคาว่าแข็งแรง รองรับได้

ประเมินมุมเอียง การหมุนแสงแดด รายปี

ตรวจสอบเงาที่อาจเกิดจากต้นไม้หรืออาคารสูง

ระบบที่เชื่อมไฟต้องขออนุญาตจากการไฟฟ้า และติดตั้งมิเตอร์ Net Meter

การเลือกอุปกรณ์และผู้ติดตั้ง

แผง ควรมีการรับประกัน 20–25 ปี

อินเวอร์เตอร์ ควรมีอายุการใช้งาน 8–10 ปี

ใช้สายและอุปกรณ์ความปลอดภัย เช่น เบรกเกอร์ สายดินอย่างเหมาะสม

ผู้ติดตั้งควรมีใบรับรอง มีประสบการณ์ในการติดตั้งจริง การมีรีวิวช่วยยืนยันผลงาน

การดูแลรักษาหลังติดตั้ง

ล้างแผงทุก 3–6 เดือน เช็คฝุ่น ใบไม้

ตรวจอินเวอร์เตอร์ผ่านแอปตรวจสอบ

ตรวจสายไฟและเบรกเกอร์ทุกปี

เปลี่ยนอุปกรณ์ที่เสื่อมตามอายุ เช่น อินเวอร์เตอร์

ขออนุญาตติดตั้งโซลาร์เซลล์ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนดำเนินการติดตั้ง

1. การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) หรือ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.)

ขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่คุณอาศัยอยู่:

กฟน. (การไฟฟ้านครหลวง) — เขตกรุงเทพฯ นนทบุรี และสมุทรปราการ

กฟภ. (การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค) — ทุกพื้นที่นอกเหนือจากข้างต้น

สิ่งที่ต้องขอ:

ขออนุญาตติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์

ขอเชื่อมต่อระบบเข้ากับสายส่งของการไฟฟ้า (Grid Connection)

ขอเปลี่ยนเป็น มิเตอร์แบบ Net Metering หรือ Bi-Directional Meter (มิเตอร์ที่วัดทั้งรับและส่งไฟ)

2. เทศบาล หรือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (กรณีบางพื้นที่)

หากมีการต่อเติมอาคาร หรือติดตั้งโครงสร้างบนหลังคาเพิ่มเติม อาจต้องขออนุญาตก่อสร้างหรือต่อเติมจากเทศบาล หรือ อบต. ตามพื้นที่ด้วย โดยเฉพาะกรณีใช้โครงสร้างเหล็กตั้งแผงบนพื้นหรือดาดฟ้า

3. สำนักงานพลังงานจังหวัด (กรณีโครงการใหญ่หรือได้รับการสนับสนุน)

หากติดตั้งในรูปแบบโครงการ หรือมีการขอรับเงินสนับสนุนจากภาครัฐ (เช่น โครงการบ้านประหยัดพลังงาน) อาจต้องมีเอกสารและการตรวจสอบจากสำนักงานพลังงานจังหวัด

เอกสารที่มักใช้ในการขออนุญาตมีดังนี้

สำเนาบัตรประชาชน/ทะเบียนบ้านของเจ้าของบ้าน

แบบแปลนระบบและผังการติดตั้ง

หนังสือรับรองจากวิศวกร หรือผู้ติดตั้งที่มีใบอนุญาต

เอกสารแสดงกรรมสิทธิ์บ้าน/อาคาร

เอกสารยินยอมกรณีบ้านไม่ใช่ชื่อของผู้ขอ