ระบบโซลาร์เซลล์บ้าน ประหยัดค่าไฟหลักหมื่นต่อปี คุ้มไหมมาดูกัน!

1
Read time: 12 minutes

รู้ยัง? ติดโซลาร์เซลล์วันนี้ ประหยัดค่าไฟได้ปีละเท่าไหร่

ระบบโซลาร์เซลล์บ้าน ในยุคที่ค่าครองชีพเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำมัน ค่าอาหาร ค่าผ่อนบ้าน หรือค่าใช้จ่ายจิปาถะต่าง ๆ หนึ่งในค่าใช้จ่ายที่หลายครัวเรือนหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยก็คือ ค่าไฟฟ้า ซึ่งมีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปีอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อนหรือช่วงที่มีการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าหนัก ๆ ค่าไฟมักพุ่งทะลุเพดาน จนกลายเป็นภาระหลักของบ้านหลายหลัง

ในสถานการณ์เช่นนี้ “โซลาร์เซลล์” หรือระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ จึงเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในชีวิตประจำวัน หลายครัวเรือนเริ่มหันมาให้ความสนใจกับการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์บนหลังคา ไม่เพียงเพราะช่วยลดค่าไฟเท่านั้น แต่ยังถือเป็นการลงทุนระยะยาวที่ช่วยให้บ้านประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วย

อย่างไรก็ตาม คำถามสำคัญที่หลายคนยังคงสงสัยก็คือ
“ติดโซลาร์เซลล์แล้วจะช่วยประหยัดค่าไฟได้จริงหรือ?”
“ถ้าต้องลงทุนเป็นแสน จะคุ้มค่ากับสิ่งที่ได้รับหรือเปล่า?”
“แล้วตกลงจะประหยัดได้ปีละเท่าไหร่กันแน่?”

เพื่อไขข้อสงสัยทั้งหมดนี้ เราจะพาคุณเจาะลึกทุกแง่มุมของการติดตั้งโซลาร์เซลล์ ตั้งแต่หลักการทำงาน ประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้า ไปจนถึงการคำนวณต้นทุนและผลตอบแทน เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ ว่าการติดตั้งโซลาร์เซลล์นั้น เป็นทางเลือกที่เหมาะกับบ้านคุณจริงหรือไม่

ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า ระบบโซลาร์เซลล์ทำงานโดยการรับแสงแดดผ่านแผงเซลล์แสงอาทิตย์ แล้วเปลี่ยนพลังงานแสงให้กลายเป็นพลังงานไฟฟ้า ซึ่งสามารถใช้งานกับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาไฟฟ้าจากการไฟฟ้าในช่วงกลางวัน และหากมีระบบแบตเตอรี่เสริม ก็สามารถเก็บพลังงานไว้ใช้ตอนกลางคืนได้อีกด้วย

ข้อดีของระบบโซลาร์เซลล์คือ แสงอาทิตย์ไม่มีต้นทุน ไม่มีวันหมด และมีให้ใช้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในประเทศไทยที่ได้รับแสงแดดอย่างเต็มที่เฉลี่ยวันละ 5-6 ชั่วโมง การติดตั้งโซลาร์เซลล์ในบ้านจึงสามารถผลิตไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่องและเพียงพอกับการใช้งานในแต่ละวัน

หากลองคำนวณค่าใช้จ่ายและผลตอบแทนจากการติดตั้งจริง บ้านขนาดกลางที่ใช้ไฟประมาณ 500 หน่วยต่อเดือน (เฉลี่ยค่าไฟ 2,000 - 2,500 บาท/เดือน) เมื่อติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ขนาด 5 กิโลวัตต์ ซึ่งเป็นขนาดที่นิยมในครัวเรือนทั่วไป ระบบนี้สามารถผลิตไฟฟ้าได้ประมาณ 600 หน่วยต่อเดือน หากคุณใช้ไฟช่วงกลางวันเป็นหลัก เช่น มีคนอยู่บ้าน เปิดแอร์ ทำงานจากบ้าน หรือมีเครื่องใช้ไฟฟ้าเปิดตลอดเวลา โซลาร์เซลล์จะช่วยลดภาระค่าไฟได้อย่างมหาศาล

เมื่อคิดเป็นรายปี ระบบโซลาร์เซลล์สามารถช่วยคุณประหยัดค่าไฟได้สูงถึง 24,000 - 36,000 บาทต่อปี หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้ไฟของแต่ละบ้าน ซึ่งถือว่าเป็นเม็ดเงินที่ไม่น้อยเลย โดยเฉพาะหากมองในระยะยาว

สำหรับต้นทุนการติดตั้งโซลาร์เซลล์ในปัจจุบัน ระบบขนาด 5 กิโลวัตต์ มีราคาตั้งแต่ประมาณ 150,000 - 200,000 บาท (รวมอุปกรณ์และค่าติดตั้ง) หากเปรียบเทียบกับเงินที่ประหยัดได้ในแต่ละปี เท่ากับว่าคุณสามารถคืนทุนได้ภายใน 6-7 ปี หลังจากนั้นก็ใช้ไฟฟ้าฟรีจากแสงแดดได้ไปอีก 15 ปีขึ้นไป เพราะแผงโซลาร์เซลล์ส่วนใหญ่มีอายุการใช้งานเฉลี่ยถึง 25 ปี หรือมากกว่านั้น หากมีการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม

นอกจากนี้ การติดตั้งโซลาร์เซลล์ยังช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับบ้านของคุณอีกด้วย บ้านที่ผลิตไฟฟ้าได้เอง มีความเป็นอิสระด้านพลังงาน มักเป็นที่ต้องการในตลาดมากกว่าบ้านทั่วไป อีกทั้งยังมีภาพลักษณ์ที่ทันสมัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงในยุคปัจจุบัน

กล่าวโดยสรุปแล้ว หากคุณกำลังมองหาวิธีลดภาระค่าไฟฟ้าในบ้าน การติดตั้งโซลาร์เซลล์คือทางเลือกที่คุ้มค่าทั้งในแง่ของ ประหยัดพลังงาน ประหยัดค่าใช้จ่าย และสร้างผลตอบแทนในระยะยาว แม้จะต้องลงทุนเริ่มต้นในช่วงแรก แต่ผลที่ได้กลับคืนมานั้นมากกว่าหลายเท่าตัว และยังเป็นการลงทุนที่มั่นคงในอนาคต ท่ามกลางยุคที่ค่าไฟไม่มีทีท่าจะลดลง

โซลาร์เซลล์คืออะไร และทำงานอย่างไร?

โซลาร์เซลล์ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า แผงเซลล์แสงอาทิตย์ (Solar Panel) คือเทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อแปลงพลังงานแสงจากดวงอาทิตย์ให้กลายเป็นพลังงานไฟฟ้า โดยระบบนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญของการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานสะอาด และกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในภาคครัวเรือน ภาคธุรกิจ รวมถึงอุตสาหกรรม

หลักการทำงานของโซลาร์เซลล์นั้นอาศัยปรากฏการณ์ทางฟิสิกส์ที่เรียกว่า "โฟโตโวลตาอิก" (Photovoltaic Effect) ซึ่งหมายถึงกระบวนการที่เซลล์แสงอาทิตย์สามารถแปลงพลังงานแสงให้กลายเป็นพลังงานไฟฟ้าได้โดยตรง เมื่อแสงแดดตกกระทบลงบนแผงโซลาร์เซลล์ พลังงานจากแสงจะกระตุ้นให้ อิเล็กตรอนในแผ่นซิลิคอน เคลื่อนที่ เกิดเป็นกระแสไฟฟ้ากระแสตรง (DC: Direct Current)

อย่างไรก็ตาม ไฟฟ้าที่ผลิตได้จากแผงโซลาร์เซลล์ในรูปแบบของกระแสตรง (DC) ยังไม่สามารถนำมาใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไปในบ้านได้โดยตรง เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าส่วนใหญ่ในบ้านเราใช้ไฟฟ้ากระแสสลับ (AC: Alternating Current) ดังนั้นจึงต้องผ่านอุปกรณ์อีกตัวหนึ่งที่เรียกว่า “อินเวอร์เตอร์ (Inverter)” ซึ่งจะทำหน้าที่แปลงกระแสไฟฟ้าจาก DC ให้เป็น AC เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานภายในบ้านอย่างปลอดภัย

นอกจากนี้ ระบบโซลาร์เซลล์ยังสามารถทำงานได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น

ระบบออนกริด (On-Grid): ผลิตไฟฟ้าใช้ร่วมกับไฟฟ้าจากการไฟฟ้า เหมาะสำหรับบ้านทั่วไป

ระบบออฟกริด (Off-Grid): ไม่พึ่งไฟจากการไฟฟ้าเลย ใช้ร่วมกับแบตเตอรี่เพื่อเก็บไฟไว้ใช้ตอนกลางคืน

ระบบไฮบริด (Hybrid): ผสมผสานระหว่างออนกริดและออฟกริด ใช้ไฟฟ้าจากแสงแดดได้ทั้งกลางวัน และเก็บไว้ใช้กลางคืน พร้อมสำรองจากการไฟฟ้าเมื่อจำเป็น

ข้อดีของการติดตั้งโซลาร์เซลล์ก็คือ คุณสามารถผลิตไฟฟ้าใช้เองได้จากพลังงานธรรมชาติที่ไม่มีต้นทุนและไม่มีวันหมด โดยเฉพาะในประเทศไทยซึ่งมีแสงแดดส่องถึงตลอดทั้งปี ทำให้ โซลาร์เซลล์สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และช่วยลดค่าไฟได้อย่างมีนัยสำคัญ

ติดโซลาร์เซลล์แล้วประหยัดค่าไฟได้จริงหรือ?

คำตอบคือ “ได้จริง!” และที่สำคัญคือ ประหยัดได้มากกว่าที่คุณคิด

ปัจจุบัน ค่าไฟฟ้าในครัวเรือนเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 300 – 500 หน่วยต่อเดือน หรือคิดเป็นเงินประมาณ 1,500 – 2,500 บาท/เดือน ขึ้นอยู่กับจำนวนสมาชิกในบ้าน ขนาดบ้าน และพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้า เช่น การเปิดแอร์, ใช้เครื่องทำน้ำอุ่น, ตู้เย็นหลายประตู, หรือการทำงานจากที่บ้านที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตตลอดเวลา

หากคุณเลือกติดตั้ง โซลาร์เซลล์ขนาด 5 กิโลวัตต์ (5kW) ซึ่งเป็นขนาดที่เหมาะสำหรับบ้านพักอาศัยทั่วไป ระบบนี้สามารถผลิตไฟฟ้าได้เฉลี่ยประมาณ 500 – 700 หน่วยต่อเดือน (ขึ้นอยู่กับทิศทางแสงแดด ตำแหน่งการติดตั้ง และฤดูกาล)

นั่นหมายความว่า หากคุณมีการใช้ไฟฟ้าในช่วงกลางวันเป็นหลัก เช่น:

ทำงานที่บ้าน (Work from Home)

มีเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทำงานทั้งวัน เช่น ตู้เย็น เครื่องฟอกอากาศ พัดลม หรือระบบกล้องวงจรปิด

เปิดแอร์ในช่วงเวลากลางวัน

หรือมีสมาชิกในบ้านอยู่บ้านตลอดเวลา

ระบบ โซลาร์เซลล์ขนาด 5kW จะสามารถรองรับการใช้งานได้อย่างครอบคลุม และช่วยลดปริมาณไฟฟ้าที่ต้องซื้อจากการไฟฟ้าได้อย่างมาก

แล้วประหยัดได้เท่าไหร่?

เมื่อเทียบกับอัตราการใช้ไฟฟ้าเฉลี่ยและราคาค่าไฟในปัจจุบัน โซลาร์เซลล์ขนาด 5kW จะช่วยลดค่าไฟฟ้าได้สูงถึง 2,000 – 3,000 บาท/เดือน หรือเทียบเท่ากับ 24,000 – 36,000 บาท/ปี

ซึ่งถือเป็น เม็ดเงินที่สามารถนำไปต่อยอดหรือลงทุนอย่างอื่นได้ทันที

นี่ยังไม่รวมถึงกรณีที่คุณติดตั้งโซลาร์เซลล์ร่วมกับระบบ Net Metering หรือ การขายไฟคืนเข้าระบบ (Feed-in Tariff) ที่อาจช่วยให้คุณ มีรายได้เสริม เพิ่มขึ้นจากพลังงานที่คุณไม่ได้ใช้ภายในบ้านด้วย

กล่าวโดยสรุป การติดตั้งโซลาร์เซลล์ไม่เพียงแต่ช่วย ประหยัดค่าไฟฟ้าในแต่ละเดือน ได้จริง แต่ยังเป็นการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับบ้านของคุณอีกด้วย ในระยะยาว คุณจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนว่าโซลาร์เซลล์ช่วยให้คุณจ่ายน้อยลง แต่ได้ใช้ไฟฟ้าอย่างอิสระมากขึ้นทุกวัน

ระบบโซลาร์เซลล์บ้าน คำนวณต้นทุน VS ผลประโยชน์จากการติดโซลาร์เซลล์

การติดตั้ง โซลาร์เซลล์ ถือเป็นการลงทุนระยะยาวที่ให้ผลตอบแทนชัดเจนในรูปแบบของ “การประหยัดค่าไฟ” ทุกเดือน ซึ่งหากมองในมุมของการเงินแล้ว คุณจะเห็นได้ชัดเจนว่าระบบโซลาร์เซลล์ไม่เพียงแต่คุ้มค่าในระยะสั้น แต่ยังสร้างผลตอบแทนได้ต่อเนื่องยาวนานหลายสิบปี

สำหรับบ้านพักอาศัยทั่วไปที่ต้องการใช้ไฟฟ้าระหว่างวันอย่างต่อเนื่อง ระบบ โซลาร์เซลล์ขนาด 5 กิโลวัตต์ (5kW) ถือเป็นขนาดที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด เพราะเพียงพอกับการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าหลัก ๆ ภายในบ้าน เช่น แอร์ ทีวี ตู้เย็น คอมพิวเตอร์ เครื่องซักผ้า หรือระบบ Smart Home ต่าง ๆ

ต้นทุนในการติดตั้ง

ระบบโซลาร์เซลล์ขนาด 5kW ในปัจจุบันมีต้นทุนเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 150,000 – 200,000 บาท
โดยราคานี้อาจแตกต่างกันไปตาม:

คุณภาพของแผงโซลาร์เซลล์และอินเวอร์เตอร์

แบรนด์ที่เลือกใช้

เงื่อนไขการรับประกัน

ค่าแรงและมาตรฐานการติดตั้งของบริษัทผู้ให้บริการ

แม้ต้นทุนเริ่มต้นอาจดูสูง แต่หากคำนวณตามการประหยัดไฟที่เกิดขึ้นจริงจะพบว่า...

คืนทุนเร็ว และหลังจากนั้นคือกำไรล้วน ๆ

จากการใช้งานจริง ระบบโซลาร์เซลล์ขนาด 5kW สามารถช่วยลดค่าไฟได้เฉลี่ย 2,000 – 2,500 บาทต่อเดือน
เมื่อคูณออกมาเป็นรายปี เท่ากับว่า...

ประหยัดค่าไฟได้ปีละ 24,000 – 30,000 บาท

เท่ากับว่า คืนทุนได้ภายใน 6 – 7 ปี (หรือเร็วกว่านั้น หากใช้ไฟช่วงกลางวันเยอะ)

เมื่อเทียบกับ อายุการใช้งานเฉลี่ยของระบบโซลาร์เซลล์ที่มากถึง 25 ปี คุณยังจะมีเวลาอีกเกือบ 18 – 19 ปี ที่ไม่ต้องเสียค่าไฟในช่วงกลางวันเลยแม้แต่บาทเดียว

สรุปผลตอบแทนจากการลงทุน

หากคำนวณแบบคร่าว ๆ โดยไม่รวมรายได้เพิ่มเติมจากการขายไฟกลับเข้าระบบ คุณจะสามารถประหยัดค่าไฟได้รวมมากกว่า:

📌 600,000 – 750,000 บาทตลอดอายุการใช้งานของระบบโซลาร์เซลล์
ซึ่งมากกว่าต้นทุนที่จ่ายไปถึง 3 – 4 เท่าเลยทีเดียว

ระบบโซลาร์เซลล์บ้าน สิ่งที่ควรรู้ก่อนติดโซลาร์เซลล์

แม้การติดตั้ง โซลาร์เซลล์ จะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว แต่เพื่อให้ระบบทำงานได้เต็มประสิทธิภาพและไม่เกิดปัญหาในภายหลัง มีหลายเรื่องสำคัญที่คุณควรพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจติดตั้งโซลาร์เซลล์ที่บ้าน

1. ทิศทางและตำแหน่งของหลังคา

แผงโซลาร์เซลล์จะทำงานได้ดีที่สุดเมื่อได้รับแสงแดดโดยตรงอย่างเต็มที่ตลอดทั้งวัน
โดยทั่วไป หลังคาที่หันไปทางทิศใต้ หรือทิศตะวันตกเฉียงใต้ จะได้รับแสงแดดมากที่สุดในประเทศไทย ซึ่งส่งผลให้ระบบผลิตไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
หากหลังคาของคุณหันไปทางทิศเหนือหรือมีเงาบัง เช่น ต้นไม้สูง หรืออาคารใกล้เคียง อาจจำเป็นต้องพิจารณาปรับตำแหน่งหรือติดตั้งโครงสร้างเสริม

2. ความแข็งแรงของโครงสร้างหลังคา

แผงโซลาร์เซลล์มีน้ำหนักพอสมควร โดยเฉพาะหากติดตั้งหลายแผงบนหลังคา
คุณควรให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบว่าโครงสร้างหลังคาของคุณ แข็งแรงพอที่จะรองรับน้ำหนักของแผงโซลาร์เซลล์และโครงยึด ได้อย่างปลอดภัยหรือไม่ โดยเฉพาะบ้านที่สร้างมานานหรือมีโครงสร้างไม้เก่า

3. การดูแลรักษาระบบโซลาร์เซลล์

โซลาร์เซลล์ถือเป็นระบบที่ดูแลรักษาง่าย ไม่ซับซ้อน และไม่มีชิ้นส่วนที่ต้องเคลื่อนไหว
โดยทั่วไปคุณเพียงแค่ ทำความสะอาดแผงโซลาร์เซลล์เพื่อขจัดฝุ่น เศษใบไม้ หรือคราบสกปรก ปีละ 1–2 ครั้ง เพื่อให้แสงแดดสามารถตกกระทบผิวแผงได้เต็มที่
หากอยู่ในพื้นที่ฝุ่นเยอะหรือใกล้โรงงานอุตสาหกรรม อาจต้องเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาด

4. การขออนุญาตและแจ้งกับการไฟฟ้า

แม้ว่าการติดตั้งโซลาร์เซลล์เพื่อใช้ภายในบ้านจะไม่ซับซ้อนมาก แต่เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย และเพื่อให้สามารถเชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าของการไฟฟ้าได้อย่างปลอดภัย
คุณควรดำเนินการแจ้งหรือลงทะเบียนกับการไฟฟ้านครหลวง (MEA) หรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ตามพื้นที่ที่บ้านคุณตั้งอยู่ โดยเฉพาะหากเป็นระบบแบบออนกริด (On-Grid) ที่ต้องเชื่อมไฟเข้าระบบ และในบางกรณีอาจสามารถขอสิทธิ์ขายไฟคืนได้ด้วย

ข้อดีของโซลาร์เซลล์ที่คุณอาจยังไม่รู้

🔋 ช่วยลดภาระค่าไฟฟ้าในระยะยาว

🌍 เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์

🏡 เพิ่มมูลค่าทรัพย์สิน บ้านที่มีโซลาร์เซลล์จะขายได้ราคาสูงขึ้น

🔧 ระบบใหม่ ๆ ในตลาดมีการรับประกันยาวถึง 10-25 ปี

บางระบบสามารถขายไฟคืนเข้าระบบได้ (Net Metering) ซึ่งช่วยเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่ง

สรุป ระบบโซลาร์เซลล์บ้าน คุ้มไหมกับการติดโซลาร์เซลล์?

หากคุณเป็นคนที่ต้องการลดค่าไฟระยะยาว และมีพื้นที่หลังคาพร้อมใช้งาน การติดตั้ง โซลาร์เซลล์ ถือเป็นการลงทุนที่ คุ้มค่าและตอบโจทย์ในยุคประหยัดพลังงาน ไม่เพียงแค่ช่วยลดค่าใช้จ่าย แต่ยังช่วยคุณมีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

ติดโซลาร์เซลล์วันนี้ อาจเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดในการวางแผนการเงินของบ้านคุณในระยะยาว


ระบบโซลาร์เซลล์บ้าน ประหยัดค่าไฟหลักหมื่นต่อปี คุ้มไหมมาดูกัน! | NEPS