พลังงานแสงอาทิตย์คืออะไร และทำไมถึงควรหันมาใช้พลังงานสะอาดนี้?

7
Read time: 12 minutes

พลังงานแสงอาทิตย์ ในยุคที่โลกเผชิญกับปัญหาด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง พลังงานแสงอาทิตย์ได้กลายมาเป็นหนึ่งในคำตอบสำคัญของมนุษยชาติ พลังงานแสงอาทิตย์คือพลังงานสะอาดที่ได้จากแสงของดวงอาทิตย์ ซึ่งสามารถแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้าหรือความร้อนได้โดยไม่ปล่อยสารพิษหรือก๊าซเรือนกระจกเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ ความสำคัญของพลังงานแสงอาทิตย์ไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับการลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่มีจำกัด แต่ยังช่วยลดภาวะโลกร้อน สร้างความมั่นคงทางพลังงาน และเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงพลังงานได้ง่ายและประหยัดยิ่งขึ้น

เทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์นั้นเรียกว่า โซลาร์เซลล์ หรือเซลล์แสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นวัสดุที่สามารถเปลี่ยนพลังงานจากแสงแดดให้กลายเป็นพลังงานไฟฟ้าได้โดยตรง แผงโซลาร์เซลล์เหล่านี้ถูกติดตั้งบนหลังคาบ้าน อาคารพาณิชย์ โรงงาน หรือแม้แต่ในพื้นที่เกษตรกรรม และสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อใช้งานในสถานที่นั้น ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง หากมีระบบจัดเก็บพลังงานเพิ่มเติม เช่น แบตเตอรี่ ก็จะสามารถใช้ไฟฟ้าได้แม้ในเวลากลางคืนหรือช่วงที่ไม่มีแสงแดด

ข้อได้เปรียบที่สำคัญที่สุดของพลังงานแสงอาทิตย์คือ เป็นแหล่งพลังงานที่ไม่มีวันหมด ดวงอาทิตย์ส่องแสงมายังโลกในปริมาณมหาศาลทุกวัน และในแต่ละปี โลกได้รับพลังงานจากดวงอาทิตย์มากกว่าที่มนุษย์ใช้งานจริงนับพันเท่า นั่นหมายความว่า หากเรามีเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานที่เพียงพอ เราก็สามารถพึ่งพา พลังงานแสงอาทิตย์ ได้เกือบทั้งหมดโดยไม่ต้องใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิลอีกต่อไป

ประเทศไทยถือว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่เหมาะกับการใช้ พลังงานแสงอาทิตย์ มากที่สุด เนื่องจากมีแสงแดดสม่ำเสมอตลอดปี โดยเฉพาะในภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ตอนบนที่มีระดับพลังงานแสงเฉลี่ยต่อวันค่อนข้างสูง ส่งผลให้ การติดตั้งโซลาร์เซลล์ ในประเทศไทยมีศักยภาพสูงและคุ้มค่ามากขึ้นทุกปี โดยเฉพาะเมื่อราคาของแผงโซลาร์เซลล์ลดลงอย่างต่อเนื่องตามเทคโนโลยีที่พัฒนา

แม้ว่าการลงทุนในระบบ การติดตั้งโซลาร์เซลล์ อาจมีต้นทุนเริ่มต้นที่ค่อนข้างสูง เช่น ค่าแผง ค่าอินเวอร์เตอร์ ค่าติดตั้ง และระบบสำรองไฟ แต่ในระยะยาวแล้วถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะสามารถลดค่าไฟฟ้าได้อย่างมีนัยสำคัญ ระบบออนกริด (On-Grid) ที่เชื่อมต่อกับโครงข่ายของการไฟฟ้า ยังช่วยให้สามารถขายไฟฟ้าส่วนเกินกลับเข้าระบบ ทำให้มีรายได้เพิ่มเติม ขณะที่ระบบออฟกริด (Off-Grid) ที่ไม่พึ่งพาไฟฟ้าจากภาครัฐ จะเหมาะกับพื้นที่ห่างไกลที่ไม่มีการเข้าถึงไฟฟ้า เช่น เกาะ แหล่งเกษตร หรือชุมชนบนภูเขา

พลังงานแสงอาทิตย์ยังช่วยเสริมสร้างความยั่งยืนในระดับประเทศ ด้วยการลดการนำเข้าน้ำมัน ถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติ ซึ่งมีความเสี่ยงด้านราคาผันผวนและปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์ นอกจากนี้ยังลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน ช่วยให้ประเทศไทยสามารถบรรลุเป้าหมาย Net Zero Carbon ได้ตามแผนพลังงานแห่งชาติในอนาคตอันใกล้

ในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม การติดตั้งโซลาร์เซลล์ กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานโดยเฉพาะในช่วงกลางวันซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีการใช้พลังงานสูงสุด แหล่งพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคาโรงงาน หรือที่เรียกว่า “Solar Rooftop” จึงกลายเป็นหนึ่งในโครงการที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับผู้ประกอบการ เพราะไม่เพียงแต่ประหยัดไฟ ยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในแง่ของการเป็นองค์กรที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม (CSR) และช่วยเสริมสร้างคะแนน ESG (Environmental, Social and Governance) ซึ่งปัจจุบันเป็นปัจจัยสำคัญในการพิจารณาจากนักลงทุนรายใหญ่ทั่วโลก

การติดตั้งโซลาร์เซลล์ ในบ้านเรือนเองก็เป็นเรื่องที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้มากขึ้น ปัจจุบันมีหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่ให้การสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นการให้คำปรึกษา การให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ หรือแม้แต่โครงการที่ให้รัฐสนับสนุนค่าใช้จ่ายบางส่วนให้กับผู้ติดตั้ง นอกจากนี้ระบบโซลาร์ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับอุปกรณ์อื่น ๆ ได้ เช่น ไฟถนนโซลาร์เซลล์ ระบบสูบน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ ในภาคเกษตรกรรม และระบบผลิตน้ำร้อนในโรงแรมหรือโรงพยาบาล

แม้จะมีข้อดีมากมาย แต่ก็ยังมีข้อจำกัดบางประการ เช่น ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและปริมาณแสงแดด หากอยู่ในพื้นที่ที่มีเมฆมาก ฝนตกบ่อย หรืออยู่ในฤดูมรสุมเป็นเวลานาน ระบบอาจผลิตไฟฟ้าได้ไม่เต็มที่ อีกทั้งการจัดเก็บพลังงานในแบตเตอรี่ยังมีต้นทุนที่ค่อนข้างสูงและอายุการใช้งานจำกัด อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในด้านแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนและระบบควบคุมพลังงานอัจฉริยะ (Smart Grid) ซึ่งจะช่วยให้ระบบพลังงานแสงอาทิตย์มีประสิทธิภาพมากขึ้นและสามารถใช้ได้แม้ในวันที่ไม่มีแดด

แนวโน้มของโลกในช่วง 10 ปีข้างหน้านี้ชี้ให้เห็นว่า พลังงานแสงอาทิตย์จะกลายเป็นแหล่งพลังงานหลักที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ ไม่ใช่เพียงแค่ในภาคการผลิตไฟฟ้าเท่านั้น แต่ยังรวมถึงภาคการขนส่ง เช่น รถยนต์ไฟฟ้าที่ชาร์จด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ และภาคที่อยู่อาศัยที่มีระบบผลิตพลังงานของตัวเองแบบ “บ้านอัจฉริยะ” (Smart Home) ซึ่งรวมเอาการควบคุมพลังงาน แสงสว่าง และความปลอดภัยไว้ในระบบเดียวกัน

พลังงานแสงอาทิตย์ในภาคเกษตร: ทางรอดของเกษตรกรยุคใหม่สู่ความยั่งยืน

ในยุคที่ต้นทุนการผลิตทางการเกษตรเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งค่าน้ำมัน ค่าไฟฟ้า ค่าแรงงาน และความไม่แน่นอนของสภาพภูมิอากาศ เกษตรกรจำนวนไม่น้อยเริ่มมองหาวิธีการใหม่ๆ ที่จะช่วยลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับตนเองและครอบครัว หนึ่งในทางออกที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คือการนำ พลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ในภาคการเกษตร พลังงานแสงอาทิตย์หรือ Solar Energy ไม่เพียงเป็นพลังงานสะอาดจากธรรมชาติที่ไม่มีวันหมด แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้เกษตรกรสามารถจัดการฟาร์มของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกมิติ

แสงอาทิตย์เป็นแหล่งพลังงานที่มีอยู่แล้วตามธรรมชาติ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีแสงแดดตลอดทั้งปี การนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้แทนไฟฟ้าหรือเครื่องยนต์ดีเซลในกิจกรรมทางการเกษตรจึงเป็นเรื่องที่มีความเป็นไปได้สูง และสามารถช่วยลดต้นทุนการผลิตได้อย่างมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลที่ไม่มีไฟฟ้าเข้าถึง หรือพื้นที่ที่มีค่าไฟสูงจากการใช้งานเครื่องสูบน้ำ เครื่องอบแห้ง หรือเครื่องมือที่ต้องใช้ไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก

หนึ่งในตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุดของการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในภาคเกษตรคือระบบสูบน้ำโดยการ พลังงานแสงอาทิตย์ การติดตั้งโซลาร์เซลล์ หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อว่า “โซล่าปั๊ม” ระบบนี้ทำงานโดย การติดตั้งโซลาร์เซลล ในการแปลงพลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นพลังงานไฟฟ้า ซึ่งจะนำไปใช้กับปั๊มน้ำเพื่อสูบน้ำจากบ่อหรือแม่น้ำเข้าสู่ไร่นา โดยไม่ต้องพึ่งพาเครื่องยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ซึ่งนอกจากจะช่วยลดต้นทุนค่าเชื้อเพลิงแล้ว ยังช่วยลดการปล่อยควันเสียที่ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ปัจจุบันมีการพัฒนาโซล่าปั๊มให้มีหลากหลายขนาด ตั้งแต่ระบบขนาดเล็กที่เหมาะกับแปลงเกษตรไม่กี่ไร่ ไปจนถึงระบบขนาดใหญ่ที่สามารถสูบน้ำได้ปริมาณมากเพื่อใช้กับแปลงเกษตรเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่

นอกจากระบบสูบน้ำแล้ว พลังงานแสงอาทิตย์ยังสามารถนำมาใช้ในกิจกรรมการเกษตรอื่นๆ ได้อย่างหลากหลาย เช่น การใช้ในระบบให้น้ำอัตโนมัติ (drip irrigation) ที่ควบคุมด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ การอบแห้งผลผลิตทางการเกษตร เช่น พริก มะม่วง กล้วย หรือเมล็ดกาแฟ โดยใช้ตู้อบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งไม่เพียงช่วยลดการใช้พลังงานจากไฟฟ้าหรือแก๊สเท่านั้น แต่ยังช่วยควบคุมคุณภาพของผลผลิตให้อยู่ในระดับสม่ำเสมอ ลดความเสียหายจากเชื้อราและแบคทีเรีย ทำให้เกษตรกรสามารถส่งออกหรือจำหน่ายผลผลิตได้ในราคาที่ดีขึ้น

สำหรับเกษตรกรที่ทำฟาร์มเลี้ยงสัตว์ เช่น ฟาร์มไก่ไข่ ฟาร์มสุกร หรือฟาร์มปลาน้ำจืด พลังงานแสงอาทิตย์ยังสามารถนำมาใช้กับระบบให้อาหารอัตโนมัติ ระบบกรองน้ำ หรือระบบระบายอากาศในโรงเรือน เพื่อให้สัตว์เลี้ยงได้รับสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ลดความเครียด และเพิ่มอัตราการเจริญเติบโตหรือการให้ผลผลิต การติดตั้งโซลาร์เซลล์ ซึ่งในระยะยาวส่งผลโดยตรงต่อรายได้ของเกษตรกร โดยไม่ต้องกังวลกับค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้นในทุกปี

ข้อได้เปรียบของการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในภาคเกษตรคือความสามารถในการออกแบบให้สอดคล้องกับขนาดพื้นที่และลักษณะกิจกรรมของเกษตรกร ไม่ว่าจะเป็นฟาร์มขนาดเล็ก ฟาร์มครัวเรือน หรือฟาร์มขนาดใหญ่ที่ต้องการระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ โซลาร์เซลล์ สามารถปรับขนาดระบบได้ตามต้องการ ทำให้การลงทุนมีความยืดหยุ่น และให้ผลตอบแทนคุ้มค่าภายในระยะเวลาไม่กี่ปี นอกจากนี้ รัฐบาลไทยยังมีการสนับสนุนผ่านโครงการต่างๆ เช่น สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ การอบรมเกษตรกร และการให้คำปรึกษาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงพลังงาน หรือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

อย่างไรก็ตาม การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในภาคเกษตรก็ยังมีข้อจำกัดที่ควรพิจารณา เช่น การพึ่งพาแสงแดดเป็นหลัก หากในช่วงฤดูฝนที่มีเมฆมากหรือฝนตกต่อเนื่อง แผง โซลาร์เซลล์ อาจผลิตไฟฟ้าได้น้อยลง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อระบบอัตโนมัติที่ต้องการพลังงานต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีเรื่องของต้นทุนเริ่มต้นในการติดตั้งระบบซึ่งแม้จะลดลงมากในปัจจุบัน แต่ก็ยังถือเป็นภาระสำหรับเกษตรกรบางกลุ่มที่อาจไม่มีเงินทุนล่วงหน้า

เพื่อให้การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในภาคเกษตรมีประสิทธิภาพสูงสุด เกษตรกรควรเริ่มจากการศึกษาความต้องการพลังงานของตนเองอย่างละเอียด ว่าในแต่ละวันใช้พลังงานกี่หน่วย ใช้ในช่วงเวลาไหน และมีกิจกรรมใดที่สามารถเปลี่ยนมาใช้พลังงานแสงอาทิตย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการเลือกอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูง ใช้งานง่าย และมีการรับประกันจากผู้ผลิตที่น่าเชื่อถือ นอกจากนี้ยังควรมีการดูแลรักษาแผง โซลาร์เซลล์ อย่างสม่ำเสมอ เช่น การทำความสะอาดทุก 2–3 เดือน การตรวจสอบสายไฟ อินเวอร์เตอร์ และแบตเตอรี่ เพื่อให้ระบบทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

อนาคตของเกษตรกรรมไทยจะไม่สามารถแยกออกจากพลังงานทางเลือกได้อีกต่อไป โดยเฉพาะ การติดตั้งโซลาร์เซลล์ ที่ให้ทั้งความคุ้มค่า ความยั่งยืน และโอกาสในการเพิ่มผลผลิต เกษตรกรรุ่นใหม่ที่พร้อมเปิดรับเทคโนโลยีจะสามารถยกระดับการผลิตของตนเองให้เทียบเท่ากับเกษตรกรในประเทศพัฒนาแล้ว และยังสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ดียิ่งขึ้น

ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะเป็นเกษตรกรรายย่อยที่ต้องการลดต้นทุนในการสูบน้ำ หรือเป็นเจ้าของฟาร์มที่มองหาระบบอัตโนมัติที่ใช้พลังงานสะอาด พลังงานแสงอาทิตย์คือคำตอบที่คุณควรพิจารณาอย่างจริงจังในวันนี้ เพราะการลงทุนวันนี้คือการวางรากฐานให้กับอนาคตทางการเกษตรที่มั่นคงและยั่งยืน

พลังงานแสงอาทิตย์ ดีอย่างไร? ทำไมถึงเป็นทางเลือกที่ควรลงทุนในยุคนี้

พลังงานแสงอาทิตย์ หรือ Solar Energy คือพลังงานสะอาดที่ได้จากแสงแดดซึ่งเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่ไม่มีวันหมด การใช้พลังงานแสงอาทิตย์จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นบ้านเรือน ธุรกิจ หรือภาคเกษตร ด้วยเหตุผลสำคัญหลายประการที่ทำให้พลังงานชนิดนี้กลายเป็นเทคโนโลยีแห่งอนาคตอย่างแท้จริง

1. ประหยัดค่าไฟฟ้าในระยะยาว แสงอาทิตย์เป็นแหล่งพลังงานฟรี เมื่อเราติดตั้งระบบ การติดตั้งโซลาร์เซลล์ เพื่อผลิตไฟฟ้าใช้เอง จะช่วยลดการพึ่งพาไฟฟ้าจากภายนอกและลดค่าไฟฟ้าลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในช่วงกลางวันที่แสงแดดแรงสุด ระบบจะผลิตไฟฟ้าได้เต็มประสิทธิภาพ ช่วยลดค่าใช้จ่ายบ้านหรือธุรกิจได้จริง

2. เป็นพลังงานสะอาดและรักษ์โลก พลังงานแสงอาทิตย์ไม่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศหรือก๊าซเรือนกระจก จึงช่วยลดภาระโลกร้อน และเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เร่งด่วนในยุคปัจจุบัน การหันมาใช้พลังงานนี้จึงช่วยสร้างโลกที่น่าอยู่สำหรับคนรุ่นต่อไป

3. ลดการพึ่งพาพลังงานฟอสซิลและเพิ่มความมั่นคงทางพลังงาน ด้วยความไม่แน่นอนของราคาน้ำมันและแก๊ส รวมถึงความผันผวนทางการเมืองที่ส่งผลต่อแหล่งพลังงาน พลังงานแสงอาทิตย์ ช่วยสร้างความมั่นคง เพราะแสงแดดมีตลอดปีโดยไม่ขึ้นกับตลาดโลกหรือภูมิรัฐศาสตร์

4. ลงทุนคุ้มค่าในระยะยาว แม้ว่าการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์จะมีต้นทุนเริ่มต้น แต่ด้วยอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า 25 ปีและค่าใช้จ่ายบำรุงรักษาน้อย ทำให้เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า และยังได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐในหลายประเทศอีกด้วย

5. เทคโนโลยีทันสมัยและใช้งานง่าย ระบบ การติดตั้งโซลาร์เซลล์ ในปัจจุบันมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ราคาถูกลง และติดตั้งง่าย รวมถึงมีระบบจัดการพลังงานอัจฉริยะ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบและควบคุมการใช้พลังงานได้สะดวกผ่านสมาร์ตโฟน

6. ใช้ได้หลากหลายทั้งในบ้านและภาคธุรกิจ พลังงานแสงอาทิตย์สามารถนำไปใช้ได้กับหลายรูปแบบ เช่น ผลิตไฟฟ้าใช้เองในบ้าน โรงงาน การเกษตร หรือแม้แต่ระบบไฟฟ้าสาธารณะและโครงข่ายขนาดใหญ่ สร้างความยืดหยุ่นในการใช้งานสูง


พลังงานแสงอาทิตย์คืออะไร และทำไมถึงควรหันมาใช้พลังงานสะอาดนี้? | NEPS