ติดโซลาร์เซลล์ที่บ้าน ต้องรู้อะไรบ้าง? | คู่มือเริ่มต้นอย่างมืออาชีพ

1
Read time: 12 minutes

เริ่มต้นติดโซลาร์เซลล์ที่บ้าน ต้องรู้อะไรบ้าง?

การติดตั้งโซลาร์เซลล์ที่บ้านในปัจจุบันถือเป็นทางเลือก ติดโซลาร์เซลล์ที่บ้าน ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในกลุ่มผู้ที่ต้องการลดค่าไฟฟ้าในระยะยาว รวมถึงผู้ที่ตระหนักถึงความสำคัญของการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการใช้พลังงานฟอสซิลที่มีข้อจำกัดและส่งผลเสียต่อโลกใบนี้อย่างมากมาย การติดตั้งโซลาร์เซลล์ไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายในบิลไฟฟ้าเท่านั้น แต่ยังถือเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ด้วยการใช้พลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานธรรมชาติที่ไม่มีวันหมดไปและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์ในการติดตั้งโซลาร์เซลล์มาก่อน อาจเกิดคำถามว่าควรเริ่มต้นอย่างไร ต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง และจะมีขั้นตอนใดที่ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เพื่อให้การติดตั้งเป็นไปอย่างราบรื่นและคุ้มค่าที่สุด บทความนี้จึงได้รวบรวมข้อมูลสำคัญต่าง ๆ ที่คุณควรรู้ก่อนเริ่มต้น ไม่ว่าจะเป็นพื้นฐานความรู้เกี่ยวกับการติดตั้งโซลาร์เซลล์ ประเภทของระบบ ตลอดจนวิธีการเตรียมตัวและวางแผนก่อนติดตั้ง

นอกจากนี้ เรายังจะพูดถึงปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของระบบการติดตั้งโซลาร์เซลล์ เช่น ทิศทางและมุมเอียงของแผงแสงอาทิตย์ สภาพแวดล้อมรอบ ๆ ที่อาจทำให้เกิดเงาบดบัง รวมถึงการประเมินค่าใช้จ่ายและผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับจากการลงทุนครั้งนี้ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและเหมาะสมกับความต้องการของบ้านคุณ

หากคุณพร้อมแล้วที่จะก้าวเข้าสู่การใช้พลังงานสะอาดและลดค่าใช้จ่ายไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้จะเป็นคู่มือฉบับสมบูรณ์ที่ช่วยให้คุณเริ่มต้นได้อย่างถูกต้องและครบถ้วนทุกขั้นตอนครับ

ติดโซลาร์เซลล์ที่บ้านโซลาร์เซลล์คืออะไร และทำงานอย่างไร?

การติดตั้งโซลาร์เซลล์ หรือที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า Solar Cell คืออุปกรณ์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเปลี่ยนพลังงานจากแสงอาทิตย์ให้กลายเป็นพลังงานไฟฟ้าโดยตรง ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า โฟโตโวลตาอิก (Photovoltaic Effect) ซึ่งเป็นการสร้างกระแสไฟฟ้าจากการดูดซับแสงของวัสดุชนิดพิเศษ เช่น ซิลิคอน ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการติดตั้งโซลาร์เซลล์

โดยการติดตั้งโซลาร์เซลล์จะประกอบด้วยเซลล์แสงอาทิตย์จำนวนมากที่เชื่อมต่อกัน เมื่อได้รับแสงแดด เซลล์เหล่านี้จะดูดซับโฟตอน (Photon) จากแสงอาทิตย์ ส่งผลให้เกิดการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนภายในวัสดุ เกิดเป็นกระแสไฟฟ้ากระแสตรง (DC: Direct Current) ซึ่งไม่สามารถนำมาใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้านที่ส่วนใหญ่ใช้ไฟฟ้ากระแสสลับ (AC: Alternating Current) ได้โดยตรง

ดังนั้น กระแสไฟฟ้ากระแสตรงนี้จะต้องถูกส่งผ่าน อินเวอร์เตอร์ (Inverter) อุปกรณ์สำคัญที่ทำหน้าที่แปลงไฟฟ้ากระแสตรงให้กลายเป็นไฟฟ้ากระแสสลับที่เหมาะสมสำหรับใช้งานในบ้าน อาคาร และโรงงาน ซึ่งเป็นมาตรฐานไฟฟ้าของระบบไฟฟ้าสาธารณะทั่วไป

การติดตั้งโซลาร์เซลล์ที่บ้านไม่เพียงแต่ช่วยลดการพึ่งพาไฟฟ้าจากการไฟฟ้าเท่านั้น แต่ยังเป็นการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดจากธรรมชาติที่ไม่มีวันหมด ทำให้ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกซึ่งเป็นสาเหตุหลักของภาวะโลกร้อน นอกจากนี้ การติดตั้งโซลาร์เซลล์ยังช่วยเพิ่มความมั่นคงด้านพลังงานในระยะยาว และยังช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อรวมกับเทคโนโลยีแบตเตอรี่และระบบจัดการพลังงาน จะทำให้บ้านของคุณเป็น “บ้านพลังงานสะอาด” ที่พร้อมรับมือกับอนาคตที่ยั่งยืน

ข้อดีของการติดตั้งโซลาร์เซลล์ที่บ้าน

1. ลดค่าไฟฟ้าได้จริงและชัดเจน

การติดตั้งโซลาร์เซลล์ช่วยให้คุณสามารถผลิตไฟฟ้าใช้เองได้ภายในบ้าน โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางวันที่มีแสงแดดแรง ทำให้ไม่ต้องพึ่งพาไฟฟ้าจากการไฟฟ้ามากนัก ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะบ้านที่ใช้ไฟฟ้าปริมาณมาก เช่น บ้านที่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายชนิด หรือบ้านที่มีระบบปรับอากาศขนาดใหญ่ นอกจากนี้ หากระบบผลิตไฟฟ้าสามารถผลิตไฟฟ้าเกินความต้องการใช้ภายในบ้าน ระบบบางประเภทยังสามารถขายไฟฟ้าส่วนเกินกลับเข้าสู่ระบบการไฟฟ้าได้อีกด้วย ซึ่งช่วยเพิ่มรายได้เสริมให้กับเจ้าของบ้าน

2. ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

การติดตั้งโซลาร์เซลล์ใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นพลังงานสะอาด ไม่มีการปล่อยสารพิษหรือก๊าซเรือนกระจกที่เป็นต้นเหตุของภาวะโลกร้อน เมื่อเทียบกับการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงฟอสซิล เช่น ถ่านหิน น้ำมัน หรือก๊าซธรรมชาติ การติดตั้งโซลาร์เซลล์จึงช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) และสารพิษอื่น ๆ ที่ทำลายชั้นบรรยากาศโลก ทำให้โลกของเรามีอากาศที่บริสุทธิ์และช่วยรักษาความสมดุลของระบบนิเวศน์ในระยะยาว

3. เพิ่มมูลค่าทรัพย์สินและจุดขายบ้านในอนาคต

บ้านที่ติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในตลาดอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากผู้ซื้อหรือผู้เช่าจะมองเห็นความคุ้มค่าในแง่ของการประหยัดค่าไฟฟ้าและการใช้พลังงานสะอาด บ้านประเภทนี้จึงมีมูลค่าที่สูงขึ้นและสามารถขายหรือปล่อยเช่าได้ง่ายกว่า นอกจากนี้ ยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับเจ้าของบ้านในฐานะผู้ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

4. ลดความเสี่ยงจากการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าในอนาคต

ค่าไฟฟ้าจากการไฟฟ้ามักมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาพลังงานและต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น การติดตั้งโซลาร์เซลล์ช่วยให้คุณผลิตไฟฟ้าใช้เองในบ้าน ลดการพึ่งพาไฟฟ้าจากภายนอก ซึ่งหมายความว่าคุณจะได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าน้อยลง ทำให้ค่าใช้จ่ายด้านพลังงานมีความมั่นคงและคาดการณ์ได้มากขึ้นในระยะยาว

5. เพิ่มความมั่นคงด้านพลังงานและความเป็นอิสระ

การมีระบบผลิตไฟฟ้าของตัวเองช่วยเพิ่มความมั่นคงในการใช้พลังงาน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ระบบไฟฟ้าสาธารณะอาจมีปัญหาหรือไฟดับ การติดตั้งโซลาร์เซลล์แบบมีแบตเตอรี่เก็บพลังงานจะช่วยให้คุณยังคงมีไฟใช้ในบ้านได้ ช่วยลดผลกระทบจากความไม่แน่นอนของระบบไฟฟ้าภายนอกได้อย่างดี

6. เป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนในระยะยาว

แม้ว่าการติดตั้งโซลาร์เซลล์จะต้องใช้เงินลงทุนเริ่มต้นค่อนข้างสูง แต่ในระยะยาวระบบนี้จะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้มาก และเมื่อเทียบกับอายุการใช้งานของการติดตั้งโซลาร์เซลล์ที่มักอยู่ได้นานถึง 25-30 ปี จึงถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและสร้างผลตอบแทนที่ดีในอนาคต

สิ่งที่ต้องเตรียมก่อน ติดโซลาร์เซลล์ที่บ้าน

1. ตรวจสอบสภาพหลังคาและพื้นที่ติดตั้ง

ก่อนการติดตั้งโซลาร์เซลล์ สิ่งสำคัญอันดับแรกคือการตรวจสอบสภาพของหลังคาและพื้นที่ที่จะติดตั้งว่าเหมาะสมหรือไม่

ความแข็งแรงของหลังคา: หลังคาต้องมีโครงสร้างที่แข็งแรงและมั่นคงพอที่จะรองรับน้ำหนักของการติดตั้งโซลาร์เซลล์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้โดยไม่เกิดปัญหาในระยะยาว

ทิศทางและมุมเอียงของหลังคา: ในประเทศไทย ทิศทางที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการติดตั้งโซลาร์เซลล์คือทิศใต้ หรือทิศตะวันตกเฉียงใต้ เพื่อให้รับแสงแดดได้มากที่สุดตลอดวัน นอกจากนี้ มุมเอียงของหลังคาควรอยู่ระหว่าง 10-30 องศา ซึ่งเป็นมุมที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรับแสงอาทิตย์

ไม่มีเงาบัง: ตรวจสอบว่าบริเวณหลังคาไม่มีเงาบังจากต้นไม้ อาคารสูง หรือสิ่งกีดขวางอื่น ๆ เพราะเงาเหล่านี้จะลดประสิทธิภาพของการติดตั้งโซลาร์เซลล์อย่างมาก

ขนาดพื้นที่: วัดพื้นที่หลังคาว่ามีขนาดเพียงพอสำหรับจำนวนแผงโซลาร์เซลล์ที่ต้องการติดตั้งหรือไม่ ซึ่งจำนวนแผงที่ติดตั้งจะขึ้นอยู่กับขนาดของระบบที่คุณวางแผนใช้

2. ประเมินการใช้ไฟฟ้าในบ้าน

เพื่อเลือกขนาดการติดตั้งโซลาร์เซลล์ที่เหมาะสมกับความต้องการของบ้านคุณ

ตรวจสอบบิลค่าไฟย้อนหลัง 6-12 เดือน: เพื่อดูรูปแบบการใช้ไฟฟ้าของบ้านในแต่ละช่วงเวลา เช่น เดือนร้อนที่ใช้ไฟมากกว่าปกติ

คำนวณค่าไฟฟ้าเฉลี่ยต่อเดือนและต่อปี: ข้อมูลนี้จะช่วยประเมินขนาดของระบบที่จำเป็นต้องติดตั้งเพื่อให้สามารถผลิตไฟฟ้าเพียงพอหรือเกือบเพียงพอกับความต้องการใช้ไฟฟ้า

วางแผนใช้พลังงานอย่างชาญฉลาด: หากต้องการเพิ่มประสิทธิภาพ อาจต้องพิจารณาการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้า เช่น เลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงาน หรือใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลาที่มีแสงแดดมาก

3. งบประมาณและค่าใช้จ่ายเบื้องต้น

การติดตั้งโซลาร์เซลล์มีค่าใช้จ่ายหลายส่วนที่ควรวางแผนล่วงหน้า

กำหนดงบประมาณรวมทั้งค่าอุปกรณ์และติดตั้ง: การติดตั้งโซลาร์เซลล์ประกอบด้วยแผงโซลาร์เซลล์ อินเวอร์เตอร์ โครงยึดสายไฟ และค่าแรงติดตั้ง ซึ่งราคาจะแตกต่างกันตามขนาดและคุณภาพของอุปกรณ์

ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม: อาจมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการขออนุญาต หรือค่าธรรมเนียมเชื่อมต่อกับการไฟฟ้า รวมถึงค่าออกแบบระบบหากจำเป็น

ประเมินผลตอบแทนและระยะเวลาคืนทุน: ศึกษาว่าการลงทุนการติดตั้งโซลาร์เซลล์จะคืนทุนได้ภายในระยะเวลากี่ปี เพื่อให้การตัดสินใจเป็นไปอย่างมีข้อมูลครบถ้วน

พิจารณาเลือกใช้บริการจากผู้ติดตั้งที่เชื่อถือได้: เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพงานและบริการหลังการขาย

เลือกประเภทโซลาร์เซลล์ ติดโซลาร์เซลล์ที่บ้าน ที่เหมาะสมสำหรับบ้านคุณ

การเลือกประเภทโซลาร์เซลล์ที่เหมาะสมถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะส่งผลต่อประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าและงบประมาณโดยรวมของระบบ มีโซลาร์เซลล์หลัก ๆ อยู่ 3 ประเภทที่ใช้ติดตั้งกันทั่วไป ดังนี้

1. โซลาร์เซลล์ชนิดโมโนคริสตัลไลน์ (Monocrystalline Solar Panels)

ประสิทธิภาพสูงที่สุด อยู่ที่ประมาณ 15-20% เนื่องจากผลิตจากซิลิคอนที่มีความบริสุทธิ์สูง

มีลักษณะเป็นสีดำเข้มและมีผิวเรียบ ทำให้ดูทันสมัยและสวยงาม

ราคาสูงกว่าประเภทอื่น ๆ เนื่องจากกระบวนการผลิตที่ซับซ้อนและใช้วัสดุคุณภาพดี

เหมาะสำหรับบ้านหรืออาคารที่มีพื้นที่ติดตั้งจำกัด เพราะสามารถผลิตไฟฟ้าได้มากในพื้นที่น้อย

ทนทานต่อสภาพแวดล้อมและมีอายุการใช้งานยาวนานประมาณ 25-30 ปี

2. โซลาร์เซลล์ชนิดโพลีคริสตัลไลน์ (Polycrystalline Solar Panels)

ผลิตจากซิลิคอนหลายผลึกรวมกัน ทำให้มีประสิทธิภาพอยู่ที่ประมาณ 13-16%

สีจะออกน้ำเงินเข้มหรือสีฟ้าเข้ม มีลวดลายของผลึกที่แตกต่างกัน ทำให้ดูไม่เรียบเท่าแบบโมโนคริสตัลไลน์

ราคาถูกกว่าโมโนคริสตัลไลน์ จึงเหมาะกับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด

เหมาะสำหรับพื้นที่ติดตั้งที่กว้าง เนื่องจากประสิทธิภาพต่ำกว่าจึงต้องใช้แผงจำนวนมากขึ้นเพื่อให้ได้พลังงานเทียบเท่า

อายุการใช้งานยาวนานเช่นกัน แต่โดยทั่วไปจะต่ำกว่าโมโนคริสตัลไลน์เล็กน้อย

3. โซลาร์เซลล์ชนิดฟิล์มบาง (Thin-Film Solar Panels)

ผลิตโดยการเคลือบวัสดุบาง ๆ ลงบนแผ่นวัสดุต่าง ๆ เช่น กระจก หรือแผ่นโลหะ ทำให้มีความยืดหยุ่นและน้ำหนักเบา

ประสิทธิภาพต่ำที่สุด เมื่อเทียบกับสองประเภทก่อนหน้า อยู่ที่ประมาณ 10-12%

เหมาะกับการติดตั้งในพื้นที่ขนาดใหญ่ที่ไม่จำกัดพื้นที่มากนัก เช่น หลังคาโรงงาน หรือพื้นที่ดินกว้าง

มีข้อดีคือการติดตั้งที่ง่ายและน้ำหนักเบา เหมาะสำหรับหลังคาที่ไม่แข็งแรงมาก

อายุการใช้งานสั้นกว่าประเภทซิลิคอน และอาจเสื่อมประสิทธิภาพได้เร็วกว่า

ติดโซลาร์เซลล์ที่บ้าน ระบบโซลาร์เซลล์มีกี่แบบ? แบบไหนเหมาะกับบ้านคุณ?

ระบบออนกริด (Grid-Tied System)

เชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าของการไฟฟ้า

ใช้ไฟฟ้าที่ผลิตเองก่อน ถ้าไม่พอก็จะดึงไฟจากการไฟฟ้า

สามารถขายไฟฟ้าส่วนเกินกลับคืนสู่การไฟฟ้าได้ (ขึ้นกับโครงการสนับสนุน)

ระบบออฟกริด (Off-Grid System)

แยกตัวจากระบบไฟฟ้าสาธารณะ

ต้องมีแบตเตอรี่เก็บพลังงานสำหรับใช้ตอนกลางคืน

เหมาะกับพื้นที่ห่างไกลไม่มีไฟฟ้าสาธารณะ

ระบบไฮบริด (Hybrid System)

ผสมผสานระหว่างระบบออนกริดและแบตเตอรี่

ใช้ไฟจากแผงโซลาร์เซลล์และเก็บพลังงานส่วนเกินในแบตเตอรี่ ใช้ไฟในบ้านได้แม้ไฟดับ

ขั้นตอนการติดตั้งโซลาร์เซลล์ที่บ้าน

  1. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญและประเมินหน้างาน เพื่อเลือกขนาดและประเภทระบบที่เหมาะสม
  2. ออกแบบระบบและจัดเตรียมอุปกรณ์ ให้ครบถ้วนตามขนาดที่ต้องการ
  3. ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาหรือพื้นที่ที่กำหนด
  4. ติดตั้งอินเวอร์เตอร์และอุปกรณ์ไฟฟ้าเสริม เช่น ระบบเชื่อมต่อกับการไฟฟ้า
  5. ตรวจสอบและทดสอบระบบ ให้ทำงานอย่างถูกต้อง
  6. ดำเนินการขออนุญาตและเชื่อมต่อกับการไฟฟ้า (สำหรับระบบออนกริด)
  7. เริ่มใช้งานและติดตามประสิทธิภาพ

ค่าใช้จ่ายติดตั้งโซลาร์เซลล์เบื้องต้น

ราคาขึ้นกับขนาดระบบ (กิโลวัตต์) และคุณภาพอุปกรณ์

โดยเฉลี่ย ราคาติดตั้งอยู่ที่ประมาณ 20,000 - 50,000 บาทต่อกิโลวัตต์

ต้องรวมค่าติดตั้ง ค่าตัวอินเวอร์เตอร์ และค่าแรง

หากติดตั้งระบบแบตเตอรี่จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาก

การบำรุงรักษาและดูแลระบบโซลาร์เซลล์

ทำความสะอาดแผงโซลาร์เซลล์เป็นประจำ เพื่อให้รับแสงได้เต็มที่

ตรวจสอบระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์เสริม เช่น อินเวอร์เตอร์อย่างน้อยปีละครั้ง

หากพบปัญหาควรติดต่อผู้ให้บริการเพื่อซ่อมแซมทันที

สิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจติดตั้ง

ระยะเวลาคืนทุน (Payback Period) ประมาณ 6-10 ปี ขึ้นอยู่กับค่าไฟและขนาดระบบ

การขออนุญาตและการเชื่อมต่อกับการไฟฟ้าต้องใช้เวลาบางส่วน

ตรวจสอบโครงการสนับสนุนหรือเงินช่วยเหลือจากภาครัฐ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย

ระบบโซลาร์เซลล์ไม่ได้ผลิตไฟฟ้าในเวลากลางคืน ต้องมีการบริหารจัดการพลังงานดี ๆ

สรุป

การติดตั้งโซลาร์เซลล์ที่บ้านเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว ช่วยลดค่าไฟและส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด แต่ก่อนตัดสินใจควรศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วน ทั้งการประเมินการใช้ไฟฟ้า การเลือกประเภทแผง และการเลือกผู้ให้บริการที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้ได้ระบบที่มีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ความต้องการอย่างแท้จริง